1951
บริษัท ไอออน เมาน์เทน อะตอมิก สโตเรจ คอร์โปเรชั่น ก่อตั้งขึ้นโดย Herman Knaust
1975
ไอออน เมาน์เทน ซึ่งเป็นชื่อบริษัทในปัจจุบัน ซื้อเหมืองใต้ดินและพื้นที่ใต้ดินที่มีขนาดใหญ่จาก Knaust
1978
ไอออน เมาน์เทน จัดซื้อศูนย์จัดเก็บข้อมูลบนพื้นดินและเริ่มพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลปริมาณมาก
1980
บริษัทมีการขยายไปยังนิวอิงแลนด์โดยการซื้อพื้นที่ใต้ดินแห่งที่สาม
กลายเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Professional Records และ Information Services Management (PRISM) ซึ่งเดิมคือ ACRC
1981
C. Richard Reese เข้าร่วมในบริษัทในฐานะประธานและประธานบริหาร
1983
ไอออน เมาน์เทน ขยายไปยังรัฐนิวแฮมพ์เชอร์และรัฐนิวเจอร์ซีย์
1986
บริษัทจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตันและซื้อคลังจัดเก็บข้อมูลที่รัฐนิวอิงแลนด์
กลายเป็นบริษัทจัดการบันทึกข้อมูลที่โดดเด่นในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1988
ไอออน เมาน์เทน กลายเป็นบริษัทระดับชาติโดยการเข้าซื้อกิจการบริษัท Bell & Howell Records Management
1991
ไอออน เมาน์เทน แนะนำ SafeKeeper ให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นระบบการจัดการข้อมูลคงคลังซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท
1994
บริษัท เปิดตัวบริการให้คำปรึกษาด้านการจัดการข้อมูล
1995
Richard Reese เป็นประธานกรรมการ
1996
ไอออน เมาน์เทน เริ่มดำเนินการซื้อขายใน NASDAQ ภายใต้สัญลักษณ์ IMTN
1997
ไอออน เมาน์เทน กลายเป็นบริษัทเอสโครว์ซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกด้วยการซื้อบริษัท Data Securities International (DSI)
เข้าสู่ตลาดผู้ให้บริการจัดการข้อมูลด้านสุขภาพด้วยการซื้อกิจการ Record Masters (HIMSCorp)
1998
ไอออน เมาน์เทน เป็นบริษัทด้านการปกป้องข้อมูลนอกสถานที่ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาโดยมีการเข้าซื้อกิจการของ Arcus Data Security (เปลี่ยนชื่อ Off-Site Data Protection ในปีพ. ศ. 2544)
1999
จัดตั้งบริษัทขึ้นในต่างประเทศโดยมีการเข้าซื้อกิจการของ British Data Management (BDM) ในสหราชอาณาจักร
เข้าสู่ตลาดเม็กซิกันด้วยการซื้อกิจการ SAC Mexico
เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ IRM
2000
ไอออน เมาน์เทน เข้าสู่ละตินอเมริกาด้วยการซื้อกิจการ Storage, S.A. ในประเทศอาร์เจนตินา
ควบรวมกิจการกับ Pierce Leahy Archives ซึ่งเป็นบริษัทจัดการบันทึกข้อมูลซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองทำให้ ไอออน เมาน์เทน เป็นบริษัทเดียวที่ให้บริการจัดการข้อมูลและบีนทึกข้อมูลแบบครบวงจรในนิวแฮมพ์เชอร์ตะวันตกและทวีปยุโรป
จัดตั้งฝ่าย Confidential Destruction ของ ไอออน เมาน์เทน (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Information Destruction)
2001
บริษัทเปิดตัวโซลูชั่นเทคโนโลยีหลักสองโซลูชั่นสำหรับการป้องกันและการเก็บรักษาข้อมูล: บริการ Electronic Vaulting สำหรับการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลออนไลน์และ Digital Archives สำหรับการจัดการบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
2002
หนังสือพิมพ์ Boston Business Journal ยกให้บริษัท ไอออน เมาน์เทนเป็น "บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี""
2003
ไอออน เมาน์เทน ได้รับการจัดอันดับโดย FORTUNE 1000 ในอันดับที่ 887
Ernst & Young ได้ยกให้ประธานบริหาร Richard Reese เป็น “ผู้ประกอบการแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งปี"
จัดตั้งบริษัททั่วยุโรปโดยการซื้อกิจการ Information Management Services ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท Hays จำกัด มหาชน
2004
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอันดับที่ # 857 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
ขยายบริการการจัดการทรัพย์สินทางปัญญาด้วยการซื้อบริษัทบริหารจัดการโดเมนชื่อ Arcemus®
ขยายบริการ Secure Shredding ในแคนาดาด้วยการซื้อกิจการแฟรนไชส์ Proshred Security International ในรัฐออนแทรีโอ
สร้างหน่วยธุรกิจดิจิทัลของ ไอออน เมาน์เทน และซื้อกิจการ Connected Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสำรองข้อมูลออนไลน์และการป้องกันข้อมูลแบบกระจาย
บริษัทได้แต่งตั้ง Bob Brennan เป็นประธานของทวีปอเมริกาเหนือ
2005
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ # 811 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
เข้าสู่ Pacific Rim ด้วยการซื้อกิจการ Pickfords Records Management ("PRM") ของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
Bob Brennan ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นประธานและประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ
ซื้อบริษัท LiveVault Corporation ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการสำรองข้อมูลและการกู้คืนเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ที่ต้องใช้ดิสก์ โดยเป็นการขยายแฟ้มผลงามด้านเทคโนโลยีของบริษัท
2006
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ # 783 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
ไอออน เมาน์เทน ขยายการบริการไปยังภาครัฐ โดยเปิดสำนักงานธุรกิจแห่งใหม่ที่มุ่งเน้นการให้บริการภาครัฐในเมืองดัลเลส รัฐเวอร์จิเนีย
ซื้อกิจการ DigiGuard ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนด้านการป้องกันข้อมูลในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
Boston Leader Summit ได้มอบรางวัล Visionary Leadership ให้แก่ Richard Reese
2007
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ #780 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
เปิดตัวในนิตยสาร Forbes ในหัวข้อ “400 อันดับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดีที่สุด”
ขยายผลงานการจัดการบันทึกข้อมูลด้วยการซื้อบริษัท Accutrac Software
ซื้อบริษัท Stratify โดยเพิ่มบริการ eDiscovery
2008
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ #722 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
Bob Brennan ได้รับเลือกให้เป็นประธานและประธานบริหารและ Richard Reese เป็นประธานกรรมการ
นิตยสาร Security จัดอันดับ ไอออน เมาน์เทน ในรายการ Security 500 ซึ่งเป็นรายชื่อบริษัทที่มีความปลอดภัยสูงสุดของประเทศ
2009
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ #681 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
เข้าสู่ดัชนี S & P 500
รายได้สูงสุด 3 พันล้านเหรียญเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท
2010
ไอออน เมาน์เทนเข้าซื้อกิจการ Mimosa Systems
บริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาสครั้งแรกให้กับผู้ถือหุ้นและเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืน
ไอออน เมาน์เทน ขึ้นไปอยู่อันดับที่ # 644 ในรายการจัดอันดับของ FORTUNE 1000
InfoWorld ยกให้ ไอออน เมาน์เทน เป็น "Green 15" ซึ่งเป็นรายชื่อโครงการด้านไอทีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก
2011
ไอออน เมาน์เทน ได้ขายหน่วยธุรกิจดิจิทัลให้แก่ Autonomy Corporation
ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีสำหรับธุรกิจของบริษัทโดยมุ่งมั่นที่จะตอบแทนผู้ถือหุ้น ไอออน เมาน์เทน มูลค่า 2.2 พันล้านเหรียญภายในปี 2013
Richard Reese ทำหน้าที่ประธานบริหารของ ไอออน เมาน์เทน
2012
ไอออน เมาน์เทน แต่งตั้ง William Meaney เป็นประธานและประธานบริหาร
คณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้วางแผนโดยเปลี่ยนเป็น Real Investment Investment Trust (REIT)
เพิ่มแผงโซลาร์เซลล์ชุดแรกบนหลังคาพื้นที่จัดเก็บที่เลือกไว้
2013
ไอออน เมาน์เทน แต่งตั้ง Alfred J. Verrechia เป็นประธานกรรมการ
Richard Reese เกษียณจาก ไอออน เมาน์เทน และคณะกรรมการบริษัทหลังจากทำงานมาเป็นระยะเวลา 31 ปี
เพิ่มดัชนี FTSE4Good เพื่อตอบสนองมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับโดยสากลสำหรับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 712 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000
มีการประกาศวัตถุประสงค์ของ บริษัท ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นครั้งแรก โดยกำหนดเป้าหมายคือ ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี 2014
2014
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 726 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000
เปลี่ยนเป็น Real Estate Investment Trust โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป
เผยแพร่รายงานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กรเป็นครั้งแรก
แต่งตั้ง Jennifer Allerton และ Pamela Arway เป็นกับคณะกรรมการบริษัท
ซื้อ Securit Records Management จำหน่ายเครื่องย่อยในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์และออสเตรเลีย
2015
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 730 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000
2016
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 729 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000
2017
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 649 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000
2018
ไอออน เมาน์เทน อยู่ในอันดับที่ # 619 ในรายการจัดอันดับของ
FORTUNE 1000